1) ตรวจสอบสภาพรองเท้าวิ่งของคุณ ว่ามีความเหมาะสมไหม รองเท้าวิ่งที่มีคุณภาพมักจะใช้ได้นานประมาณ 6 เดือน และก่อนที่คุณจะซื้อรองเท้าใหม่ควรปรึกษาร้านรองเท้า ที่นั่นจะมีการแนะนำรองเท้าที่เหมาะกับสภาพเท้าของแต่ละคน ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการวิ่งออกมาดีและลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้

2) เมื่อคุณวิ่งบนถนนจะต้องมีการระวังรถที่สัญจรไปมาอยู่เสมอ ดังนั้นถ้าหากเลี่ยงการวิ่งถนนไม่ได้ควรตรวจสอบสภาพเส้นทางให้ดี การวิ่งบริเวณสวนสาธารณะหรือลู่วิ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากเป็นสถานที่เหมาะสมกับการวิ่งมากที่สุด

3) หากคุณวิ่งบนลู่วิ่ง ให้ปรับความชันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อเลียนแบบการวิ่งบนถนนหรือสวนสาธารณะ การวิ่งบนลู่วิ่งนั้นง่ายกว่าการวิ่งข้างนอกเพราะไม่มีการต้านลม และไม่มีอุปสรรคในด้านสภาพแวดล้อม

4) ความสม่ำเสมอคือสิ่งนำพาความสำเร็จ โค้ชที่เก่งที่สุดในโลกกล่าวว่า “ถ้าคุณวิ่งได้สี่วันต่อสัปดาห์ เป็นประจำทุกสัปดาห์ คุณจะได้รับผลประโยชน์มากกว่าพวกที่วิ่งเจ็ดวันต่อสัปดาห์”

5) การรู้สึกเจ็บฝ่าเท้าและเจ็บปวดร่างกายหลังวิ่งเป็นเรื่องปกติ บ่อยครั้งที่ความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดจะตามมาหลังจากจบการวิ่งหากคุณเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ ดังนั้นการใช้ลูกกลิ้งโฟมหรือมีการยืดเหยียดอย่างถูกวิธีหลังจบการฝึกซ้อม มันจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้อย่างมาก

6) วันพักผ่อนมีความสำคัญพอๆ กับวันออกกำลังกาย ควรกำหนดให้มีวันพักระหว่างสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายของคุณสามารถฟื้นตัวและปรับตัวได้ นี่คือวิธีที่จะทำให้คุณมีฟอร์มการวิ่งที่ดีขึ้น พอร่างกายได้พักอย่างเต็มที่แล้วก็จะสามารถกลับมาออกกำลังกายต่อได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

7) หากคุณไม่สามารถวิ่งหรือออกกำลังกายตามแผนที่กำหนดไว้ก็ให้ทำตามแผนต่อไปตามกำหนดหลังจากที่มีเวลา แต่หากคุณไม่สามารถวิ่งหรือออกกำลังกายนานกว่านั้น ครั้งต่อไปควรลดจำนวนความหนักและระยะเวลาลงมา และหากคุณไม่ได้ออกกำลังกายหรือวิ่งนานหลายเดือน ในการกลับมาครั้งต่อไปให้คุณค่อยๆกลับมาฟื้นฟูใหม่ ทั้งระยะเวลา และระยะทางที่น้อยลงกว่าเดิม

8) คุณควรเพิ่มความเข้มข้นแล้วเพิ่มระยะทางหากวิ่งมานานพอสมควร หากต้องการเพิ่มความเข้มข้น คุณสามารถเร่งความเร็วให้มากขึ้นตลอดการวิ่ง หรืออาจเป็นการเพิ่มระยะทางให้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อเพิ่มสมรรถภาพของร่างกาย

9) พยายามนอนหลับให้ได้อย่างน้อยคืนละ 8 ชั่วโมง ร่างกายของคุณจะฟื้นตัวในขณะที่คุณนอนหลับ การนอนเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้กลับคืนสู่สมรรถภาพที่ดีมากเป็นอันดับหนึ่ง และอันดับที่สองที่ส่งผลดีต่อการออกกำลังกายคือการที่มีโภชนาการที่ดี

10) บ่อยครั้งคุณรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดไฟในการออกไปวิ่ง มันดูเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนย่อมพบเจอ บางครั้งคุณอาจพักผ่อนเพิ่มเติมให้ร่างกายได้พักเต็มที่มากขึ้น นอกจากนี้คุณควรตั้งเป้าหมายและพยายามหาแรงบันดาลใจให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้

11) การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งอากาศร้อนจะทำให้ร่างกายร้อนและขาดน้ำได้ง่าย ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและทำให้เจ็บป่วยได้

12) พาเพื่อนที่ชอบวิ่งหรือชอบออกกำลังกายไปด้วย หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้สำหรับการวิ่งคือการหาคู่วิ่ง สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้คุณให้เกิดความสนุก แบ่งปันความรู้แก่กัน และช่วยให้การวิ่งระยะไกลผ่านไปอย่างรวดเร็ว

13) ให้ฟังเสียงร่างกายด้วย บางครั้งในวันที่คุณรู้สึกดีและฟิตมากคุณอาจเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น แต่ถ้าในวันที่คุณเจ็บหรือไม่ฟิตคุณควรวิ่งช้าลง ดังนั้นให้ร่างกายของคุณได้บอกคุณว่าต้องวิ่งเร็วแค่ไหน

14) ต้องกินสิ่งที่เหมาะสมในช่วงก่อนและหลังการวิ่ง การกินก่อนวิ่งที่ดีควรอยู่ในช่วง 30 นาทีทั้งก่อนวิ่งและหลังวิ่ง ก่อนวิ่งอาจทานเป็นอาหารประเภทแป้งหรือโปรตีนที่ย่อยง่าย และช่วงหลังวิ่งเป็นช่วงที่ร่างกายของคุณต้องการสารอาหารในการฟื้นฟู ดังนั้นควรดูเป็นอาหารจำพวกโปรตีนสูงหรือคาร์โบไฮเดรต

15) ให้มีการเก็บบันทึกสถิติอยู่เสมอ เพราะจะทำให้รู้ถึงสมรรถภาพการออกกำลังกายทั้งหมดของคุณ ซึ่งสิ่งนี้จะบอกได้ว่าสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดมาถูกที่ถูกทางหรือไม่ ข้อมูลสำคัญที่ต้องบันทึก ได้แก่ ระยะทาง เวลา ความรู้สึกของคุณ ซึ่งสถิติเหล่านี้จะช่วยให้คุณกำหนดทิศทางต่อไปได้ว่าจะมุ่งไปในทิศทางไหนภายใต้เป้าหมายที่กำหนดไว้

By somchai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *