เอ็นรองฝ่าเท้าอักเสบ

เอ็นรองฝ่าเท้าอักเสบ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า โรครองช้ำ เป็นอาการบาดเจ็บที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน หรือเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในนักวิ่ง เนื่องจากการวิ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้เท้ารับน้ำหนักและรับแรงกระแทกอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ การวิ่งที่ไม่ถูกวิธีเนื่องจากการวางเท้าที่ไม่ถูกต้อง หรือการฝึกซ้อมที่หนักเกินไป อาจทำให้เอ็นรองฝ่าเท้าเกิดการอักเสบและฉีกขาดได้เหมือนกันครับ

เอ็นรองฝ่าเท้าเป็นเนื้อเยื่อที่แข็งแรง เชื่อมต่อกระดูกส้นเท้ากับปลายนิ้วเท้า มีหน้าที่รองรับน้ำหนักตัวและช่วยให้เท้ามีความยืดหยุ่น เมื่อเอ็นส่วนนี้เกิดการอักเสบหรือฉีกขาด ก็จะทำให้เกิดอาการปวด

ทำไมนักวิ่งถึงเป็นเอ็นรองฝ่าเท้าอักเสบได้ง่าย?

1. นักวิ่งที่ซ้อมวิ่งเป็นประจำก็จะมีการใช้งานฝ่าเท้ามากและเป็นเวลานาน ทำให้เอ็นรองฝ่าเท้าได้รับการใช้งานหนักเกินไป
2. การเลือกใช้รองเท้าวิ่งที่ไม่เหมาะสม เช่นรองเท้าวิ่งที่เก่าหรือไม่รองรับสรีระของเท้า หรือรองเท้าไม่มีการ Support ที่เพียงพอที่จะรองรับแรงกระแทกขณะวิ่งก็ได้
3. เทคนิคการวิ่ง หรือการวางเท้าวิ่งที่ไม่ถูกต้อง การลงเท้าที่ไม่ถูกวิธี การวิ่งด้วยเท้าหน้าหรือหลังเท้าเกินไป อาจเพิ่มแรงกดทับที่เอ็นรองฝ่าเท้า การวิ่งที่ ที่เรียว่า Over stride ที่เกิดจากการก้าว​ยาว จนการลงเท้า ไกลเกินกว่าแนวลำตัว​และศีรษะ​ทำให้มีแรงกระแทก​ ทำต่อข้อต่อมากขึ้น​ ทั้งข้อเท้า​ หน้าแข้ง​และเข่า​ทำให้บาดเจ็บจากการวิ่งได้
4. สนามซ้อมวิ่งที่ไม่ดี พื้นผิวที่แข็งหรือไม่เรียบ อาจทำให้เกิดแรงกระแทกที่มากเกินไป
5. การเพิ่มปริมาณการฝึกซ้อมที่มากเกินไป  เช่นการวิ่งที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นบ่อยครั้งและเร็ว หรือการเพิ่มระยะทางการซ้อมที่มากขึ้น อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน

อาการของเอ็นรองฝ่าเท้าอักเสบที่พบบ่อยๆ

1. มีอาการปวดส้นเท้าโดยเฉพาะตอนเช้าเมื่อเพิ่งลุกจากเตียง
2. มีอาการปวดมากขึ้นเมื่อยืนหรือเดินนานๆ
3. มีอาการปวดบริเวณกลางฝ่าเท้า
4. มีอาการรู้สึกตึงที่น่อง

การรักษาเอ็นรองฝ่าเท้าอักเสบ

1. การพักผ่อนและลดความเข้มข้นของการซ้อม จะช่วยให้ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างๆที่ส่งผลที่ทำให้ปวด
2. การประคบเย็นและประคบร้อน เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ
3. การยืดเหยียดหลังวิ่ง เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของเอ็น
4. การใช้ ยาลดอักเสบ หรือยาแก้ปวด อันนี้ไม่แนะนำเท่าไร แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องใช้แต่ต้องใช้ในปริมาณไม่มาหรือบ่อยจนเกินไป
5. การสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมและเลือกรองเท้าที่มีพื้นนุ่ม รองรับอุ้งเท้าได้ดี ซึ่งมีมากมายให้เลือกใช้
6. ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เช่นแพทย์กายภาพบำบัด ที่จะช่วยแนะนำ และมี Treatment ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงของเท้า
7. การฉีดยา อันนี้จะใช้ก็ในกรณีที่อาการรุนแรงจริงๆ และแพทย์อาจพิจารณาฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
8. การผ่าตัด ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษาทุกวิธีดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

หากเพื่อนมีอาการปวดส้นเท้า ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องนะครับ ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปซึ่งพบได้บ่อย แต่คำแนะนำของแพทย์จะดีที่สุดครับ เพราะนักวิ่งทุกคนมีลักษณะการวิ่ง หรืออาการที่อาจจะแตกต่างกันได้ครับ

ขอให้ทุกท่านวิ่งอย่างมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงครับผม

 

 

By somchai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *