การดริล เป็นการฝึกทักษะและปรับท่าวิ่งที่ดีมาก เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะของการวิ่งและประสิทธิภาพในการวิ่ง ผมเห็นมีโค้ชและผู้ฝึกสอนเกือบทุกคนที่จะมีโปรแกรมการฝึกดริล Drills อยู่ในแผนการฝึก เพราะเมื่อเรามีการฝึกดริลบ่อยๆท่าวิ่งเราจะดีขึ้น วิ่งเป็นธรรมชาติมากขึ้น จะทำให้เรามีร่างกายแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือมืออาชีพผมมองว่าการฝึกดริลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณวิ่งได้ดีขึ้น เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ประโยชน์ของการดริลมีมากมายครับ เช่น การเสริมสร้างรากฐานเบสิคการวิ่งของคุณแข็งแกร่งยิ่งขึ้น การดริลก่อนวิ่งก็เปรียบเสมือนการวอร์มอัพที่เจาะจงและกระตุ้นไปที่กล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวที่ใช้ในการวิ่งโดยเฉพาะ ช่วยให้ร่างกายพร้อมรับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่
ประโยชน์หลักๆ ของการดริล
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งโดยที่มันจะไปช่วยปรับปรุงเทคนิคการวิ่งของเรา การฝึกดริลช่วยให้เราเข้าใจและปรับปรุงท่าทางการวิ่งให้ถูกต้องมากขึ้น เช่น การวางเท้า การแกว่งแขน และการทรงตัว การดริลเพิ่มความคล่องตัว ท่าการฝึกดริลจะมีการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย มีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้วิ่งได้อย่างราบรื่นและใช้พลังงานน้อยลง การดริลยังเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กลุ่มกล้ามเนื้อที่ใช้ในการวิ่งจะได้รับการกระตุ้นและเสริมสร้างความแข็งแรง ทำให้วิ่งได้นานขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
2. ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เพราะรดริลหลายท่าช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ทำให้กล้ามเนื้อไม่ตึงและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง และช่วยในการปรับปรุงการทรงตัว การฝึกทรงตัวในท่าดริลช่วยให้ร่างกายมีการทรงตัวที่ดีขึ้น ลดโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บจากการลื่นล้ม
3. เพิ่มความมั่นใจในการวิ่ง เพราะเมื่อฝึกดริลอย่างสม่ำเสมอ เราจะมีความเข้าใจการทำงานของร่างกายในการวิ่งมากขึ้น วิ่งอย่างมั่นใจ และสามารถวิ่งระยะทางที่ไกลขึ้นและเร็วขึ้น
4. สนุกกับการวิ่งมากขึ้น เพราะท่าดริลมีให้เลือกทำมากมาย เพื่อนๆสามารถดูตัวอย่างการทำท่าดริล โดยค้นหาได้ใน YouTube โดยพิมพ์คำว่า “Running drills”
ตัวอย่างท่าดริลที่นิยม
1. High knees: ยกเข่าสูงสลับข้าง
2. Butt kicks: ตบก้นสลับข้าง
3. arioca: เคลื่อนที่ข้างๆ สลับขาสลับแขน
4. A-skip: ยกเข่าสูงแล้วตบเท้า
5. B-skip: ยกเข่าสูงแล้วถีบขาออกไปด้านหน้า
จริงๆท่าดริลมีมากมายอย่างท่าครับ บางท่าก็ง่ายและบางท่าก็ยาก แต่ทุกท่ามีประโยนช์ครับ หากเพื่อนๆมีการฝึกอย่างสม่ำเสมอ ส่วนตัวผมเองจะฝึก 1 ครั้งต่อสัปดาด์ครับ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที อาจจะไม่มากเหมือนคนอื่น แต่ก็ยังคงฝึกไว้ประจำเพราะมันช่วยให้เรามีท่าวิ่งที่ดีและเป็นธรรมชาติ