ผมถือว่าตัวเองเป็นหนึ่งในสาวกของ Saucony เพราะใช้มาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Kinvara ตั้งแต่รุ่นที่ 10 – 13, Saucony Freedom และรองเท้าของทาง Saucony ในตระกูล Endorphin ถือว่าเป็นหนึ่งใน Series ที่ออกมาแล้วสร้างความฮือฮาให้กับเหล่านักวิ่งชาวไทยเป็นอย่างมาก และผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ตัดสินใจชื้อ Endorphin Pro มาใช้จนสามารถทำ PB ในระยะ 10k ได้ และใส่ไปแข่งเขาใหญ่ 100 First Edition ด้วย มันสารพัดประโยชน์จริงๆ แต่หลังจากนั้นผมก็ไปลองแบรนด์ไทยอย่าง Apex มาพักใหญ่ๆ จนกระทั่งหลังจบบางแสน42 ปี 2024 ที่ผ่านมา รองเท้าคู่ใจผมพังเรียบร้อย
ตรงนี้เองมันทำให้ผมต้องหารองเท้าใหม่สักคู่หนึ่งที่จะใช้ในการซ้อมเพื่อลงงานต่อไปนั้นก็คืองานวิ่ง Bangsaen21 ซึ่งในช่วงนี้เอง Series Endorphin เองก็เปิดตัวมาจนถึงรุ่นที่ 4 ได้สักพักแล้ว และออกสีใหม่มาเรื่อยๆ รอบนี้ผมไม่ลังเลที่จะมองมาที่แบรนด์ Saucony เจ้าเก่าที่ผมชอบ และหลังจากหาข้อมูลเรื่อง Spec ของตัวรองเท้าจากการรีวิวจากหลายสำนักและพี่ๆกูรูหลายๆท่าน ผมก็ตัดสินใจถอยเจ้า Saucony Endorphin Speed 4 มาในที่สุด รายละเอียด Spec ผมคงไม่เอามาลงนะครับเพราะมีคนทำไว้เยอะมาก ผมจะขอแค่มาเล่าความรู้สึกที่ได้ใส่วิ่งเท่านั้น
หลังจากเอาไปลองวิ่งดูก็พบว่า รองเท้า Endorphin Speed 4 ใช้วิ่งในระดับความเร็วที่เพซ 6.00-6.30 ให้ความรู้สึกมั่นคงเวลาลงเต็มเท้า รองเท้ามีความเบากำลังดี ตัวแผ่นไนล่อนแบบมีปีกในพื้นรองเท้าทำให้รู้สึกถึงความโอบกระชับกลางเท้ามากๆ เรียกว่ารองเท้าเป็นส่วนหนึ่งของเท้าเลย
ในระดับความเร็วที่ Pace 5.00 ตัวรองเท้ายังคงให้ความมั่นคงอยู่ วิ่งสบายมาก รู้สึกไม่เป็นภาระขอของเรา พอผมเริ่มขยับเพซไปที่ 4.40-4.50 พร้อมทั้งเอนตัวไปข้างหน้าประมาณ 15 องศา แล้วปรับการวางเท้าเวลาสัมผัสกับพื้นใหม่ โดนเน้นที่กลางเท้าค่อนไปทางปลายเท้าเล็กน้อยตามความเร็ว ตรงนี้รู้สึกถึงเทคโนโลยี่ของ SPEEDROLL ที่ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนรองเท้ากำลังพยายามผลักคุณไปข้างหน้า ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้ากดไปที่เพซ 4.20-4.30 น่าจะสนุกแน่ๆ ถ้ากำลังขาผมไหว หลังจากได้ใส่ไป Long run 16k หลังจากใส่ไปลองรันที่เพซเฉลี่ย 4.56 มาผม Confirm เลยว่าคู่นี้ใส่ ซ้อมและแข่งตัวเดียวจบสำหรับผม
Endorphin Speed 4 เป็นรองเท้าวิ่งที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายจริงๆ ไม่ว่าจะวัน Easy, Long run หรือแม้แต่วันแข่ง หรือวันซ้อมเป็นมิตรกับเท้ามากกว่า ปรับตัวได้ง่ายกว่า อีก 2 จุดที่ผมชอบคือ ลิ้นรองเท้าที่นุ่ม และตัว Out sole พื้นยางที่ให้มาเต็มๆในส่วนของปลายเท้า
คุณสมบัติโดยรวมเด่นๆและสิ่งที่ผมชอบของรองเท้าคู่นี้
- เทคโนโลยี SPEEDROLL ที่ยังคงให้ความรู้สึกที่ดี ความรู้สึกเหมือนรองเท้ากำลังพยายามผลักคุณไปข้างหน้า เป็นการออกแบบรูปทรงพื้นที่ยอดเยี่ยม
- Winged Nylon Plate แผ่นไนล่อนแบบมีปีกในพื้นรองเท้า ที่แข็งแรงกว่าเดิม แต่ให้ความยืดหยุ่นบริเวณหน้าเท้า และยืดออกมามากกว่าเดิมช่วยโอบรูปเท้า ทำให้รู้สึกถึงความมั่นคงเวลาลงเท้า
- โฟม PWRRUN PB ผสมผสานคุณสมบัติทั้งการรองรับแรงกระแทก และการคืนพลังที่ดีที่สุด ถึงแม้จะไม่มีแผ่น Carbon แต่ด้วยโฟมระดับท็อปทำให้มันมีแรงส่งอยู่บ้าง ทำให้ได้ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อในการซ้อมได้ดี
- สำหรับผมแล้วมันเหมาะสำหรับใช้งานทั้งการซ้อม และวันแข่งขัน ซึ่งการซ้อมที่ผมพูดถึงนั้นรวมทุกโปรแกรมเลย ไม่ว่าจะ Recovery, Easy Run หรือว่ามันทำความเร็วอย่าง Interval และ Tempo
- เป็นรองเท้า Daily trainer ที่ใส่สบาย กระชับ และระบายอากาศดี
- ราคาอาจจะแอบแรงกว่าบางแบรนด์ในระดับเดียวกัน แต่ถ้าเทียบกับตัว Pro4 ผมว่ามันประหยัดกว่า การสวมใส่ง่าย และทำความเร็วได้เช่นกัน
- ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่าครับ