หลายท่านที่เป็นนักวิ่งใหม่ อาจจะสงสัยเวลามี งานวิ่ง จัดขึ้นว่ามีการเรียนระยะการวิ่งแตกต่างกัน และมีค่าสมัครที่ไม่เท่ากัน วันนี้แอดมิน จะมาอธิบายของประเภทการวิ่งต่างๆให้เข้าใจนะครับ เวลาที่เราสมัครจะได้เลือกระยะที่เหมาะสมกับการซ้อมตัวเอง

1. ระยะ 5k หรือที่เรียกว่า Fun run เป็นระยะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นวิ่ง อาจจะเรียกว่า เดิน-วิ่งเพื่อการกุศล  ซึ่งระยะทางดังกล่าวเป็นระยะสั่น จะทำให้ร่างกายไม่เหนื่อยหรืออ่อนล้ามาก เหมาะมากสำหรับการวิ่งแบบ Easy วิ่งเหยาะๆ พักเดิน หยุดกินน้ำ พูดคุยกับคนที่ร่วมวิ่งด้วยกัน ผู้วิ่งจะรู้สึกสนุกสนาน เพราะมีเพื่อนร่วมเดินวิ่งจำนวนมาก

2. ระยะ 10k หรือ Mini half-marathon มินิฮาล์ฟ มาราธอน  เป็นระยะทางที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมกันมาก เหมาะสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ที่อยากจะท้าทายความสามารถแบบจริงจัง การวิ่งมินิฮาล์ฟ มาราธอนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เป็นระยะที่คนนิยมสูง ส่งเสริมการรักษากล้ามเนื้อ ทำให้หัวใจแข็งแรง และทำให้สุขภาพปอดทำงานได้อย่างดี

3. ระยะ 21.095 หรือ ฮาล์ฟ มาราธอน (Half-marathon) เป็นระยะทางมาตรฐานที่จัดแข่งขันระดับนานาชาติทั่วโลก เป็นระยะที่มีความท้าทายมาก  และเหมาะสำหรับผู้ที่วิ่งมาสักระยะหนึ่งแล้ว มีการฝึกซ้อมที่ต่อเนื่อง และอาจจะผ่านการแข่งขันในระดับ Mini half-marathon มาบ้าง นักวิ่งใหม่ๆที่ยังไม่เคยลงงานวิ่ง ผมคิดว่ายังไม่ควรมาวิ่งในระดับนี้ครับเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในการแข่งขันจริง เพราะระยะทางนี้ค่อนข้างไกลเลยทีเดียว ทำให้ร่างกายอ่อนล้ามาก

4. ระยะ 42.195 หรือ มาราธอน (Marathon)  เป็นระยะทางมาตรฐานที่จัดแข่งขันระดับนานาชาติทั่วโลก และมีอยู่ในโอลิมปิกเช่นกัน สำหรับในเมืองไทยจะมีการจัดวิ่งมาราธอนอยู่ไม่กี่สนาม ที่มีชื่อก็จะมีงาน  Bangsaen42, Amazing Thailand Marathon, Buriram Marathon, Phuket Marathon  หลายๆงานในเมืองไทยเริ่มที่จะมีการรับรองจาก International Association of Athletics Federations (IAAF) แล้ว เพราะถือได้ว่าเป็นงานวิ่งที่มีคุณภาพสูงระดับโลก เช่น ระบบการจัดการแข่งขัน ความปลอดภัยของนักวิ่ง ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน การปิดการจราจร และการตรวจวัดสารกระตุ้น เป็นต้น ซึ่งนักวิ่งระยะนี้ก็จะมีทั้งนักวิ่งสมัครเล่น และนักวิ่งอาชีพ ผู้วิ่งควรฝึกฝนเตรียมความพร้อมให้ดีและควรผ่านการตรวจสุขภาพมาก่อน เพราะผู้ที่จะวิ่งระดับมาราธอนได้นั้นจำเป็นต้องมีการฝึกซ้อมที่จริงจังและมีร่างกายที่แข็งแรง เพราะถ้านักวิ่งไม่ฟิตจริงอาจทำให้บาดเจ็บและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าฝืนวิ่ง

5. อัลตร้า มาราธอน (Ultra-marathon) ระยะทางมากกว่า 42.195  กิโลเมตร ซึ่งส่วนมากจะนิยมจัดกันที่  60k หรือ 100k ครับ เช่นงาน Khaoyai 100k First Edition ที่แอดมินไปวิ่งมา เป็นระยะที่ไม่ได้วิ่งกันง่าย ต้องฝึกซ้อมหนักมาก ทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างการ และวัดจิตใจและความท้าทายของร่างกาย เพื่อที่จะเข้ามาให้ถึงเส้นชัยให้ได้  บอกได้คำเดียวนะครับว่าถ้าไม่ฟิตจริงวิ่งไม่จบแน่นอน

By somchai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *