จากรุ่นแรก Apexbeat Speed 1 ซึ่งตัวผมเองชื้อใช้เองถึง 3 คู่ และประทับใจมันอย่างมาก เพราะมันใส่สบายสวมใส่ง่าย วัสดุดีเยี่ยม ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นรองเท้าวิ่งตัวท็อปของคนไทย จนมาถึงรุ่นที่สองอย่าง Apexbeat Swift ผมก็ชื้อมาใส่อีก 1 คู่ มันเป็นรองเท้าที่ใส่ซ้อม ใส่แข่งได้ในตัวเองจบ ถ้าให้ผมพูดถึงรองเท้ารุ่นนี้เท่ากับว่าผมจะอวยมัน แต่วันนี้ ผมจะเอาความรู้สึกของน้องเอ็ม นักวิ่งรุ่นน้องที่ผมรู้จัก และซ้อมอยู่ที่สนาม มาบอกเล่นประสบการณ์การใช้งานเจ้า Apexbeat Swift ให้เพื่อนๆได้รับฟังและได้อ่านกัน ตัวน้องเอ็มถือว่าเป็นขาแรงคนหนึ่งเลยครับ เราเจอกันบ่อยที่สนามเทศบาลแสนสุข ชลบุรี น้องเอ็มมีรองเท้ามาหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น Nike หรือ Asics แต่น้องก็ตัดสินใจชื้อเจ้า Apexbeat Swift มาใส่
ก่อนอื่นผมจะเอารายละเอียดวัสดุของเจ้า Apexbeat Swift แบบคร่าวๆมาให้อ่านก่อน ว่าเจ้า
Upper หน้าผ้าเป็น Aura Mesh ทำจากเส้นใย TPE ให้ความคงทนและระบายอากาศได้ดี
เชือก เป็นเส้นเชือกแบบ 2 เลเยอร์ เย็บเป็นรอยตะเข็บ ตรงนี้มันจะมีความหนาอยู๋แต่ผมลองใส่แล้วมันค่อนข้างหลุดยาก ถ้าเราผูกแบบสองทบ
INSOLE แผ่นรองรองเท้าใช้วัสดุ TPE ผสมกับยาง นุ่ม เบา
MIDSOLE : S+ Power Foam ; PEBA Supercritical เบา นุ่ม เด้ง ถือเป็นโฟมระดับท้อปเทียร์ของตลาด นุ่ม เด้ง
Power Plate เป็นแผ่นคาร์บอนรูปตัว S มีค่าความแข็งที่ระดับ 85% มากที่สุดในตลาด
OUTSOLE หน้าเท้าเป็น non-slip rubber ส่วนส้นเป็น High Abrasion Rubber ที่เน้นความทนทาน
Heel Counter รอบๆบริเวณเอ็นท์ร้อยหวายบุนวมโฟมรอบๆ นุ่มสบาย กระชับ
ที่นี้มาฟังการ รีวิว Apexbeat swift ครั้งแรกแบบไม่อวยของน้องเอ็มดูครับ
แกะกล่องปุ๊บก็เอามาลองรันในระยะ 23k เลย เส้นทางบางแสน21 อุณหภูมิ 31 องศา
-การสวมใส่ค่อนข้างใส่สบาย หน้าเท้ากว้างใส่ได้แต่อัปเปอร์ค่อนข้างร้อน
-น้ำหนักรองเท้าเบามากไซส์ 11.5us น้ำหนักแค่ 200g เป๊ะๆบวกกับราคาถูกมาก สีสวย ใส่ทำงานได้🤭
-ลิ้นรองเท้าไม่เลื่อนเพราะส่วนตัวจะเจอปัญหานี้บ่อยใน ASICS Meta Speed Sky plus
-ฟิวส์ในการวิ่ง 1-12k แรกวิ่งด้วยเพซ 4.55-5.00 ไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรเพราะความรู้สึกเหมือน Racing shoe ทั่วไปแต่ที่รู้สึกได้เลยคือน้ำหนักเบา
-ฟิวส์ในการวิ่ง 13-23k วิ่งด้วยเพซ 4.30-4.45 รองเท้าเด้งส่งตามจังหวะที่เรากดเท้าลงพื้น ยิ่งกดแรงรองเท้ายิ่งเด้งส่งไม่กระด้างวิ่งมันมากแบบไหลๆเลย อันนี้รู้สึกว้าวมากเพราะทำได้ดีไม่ต่างจากแบรนด์ดังเลย
-ข้อเสียคือลดความเร็วในการวิ่งค่อนข้างยาก เพราะรองเท้านี้เหมือนบังคับให้วิ่งเกียร์เดียวหากจะลดความเร็วต้องกระชากหยุดเลย แต่เหมาะสำหรับสายคุมเพซแบบเสถียร หรือ วิ่งแบบ Negative ถ้าวิ่งช้าสลับเร็วคิดว่าไม่เหมาะ
-รองเท้านี้เหมาะสำหรับระยะ 5k 10k 21k ส่วนมาราธอนยังตอบไม่ได้ ต้องลองลองรันยาวๆเพื่อเช็คการคืนตัวของโฟร์มก่อน
-ส่วนตัวให้คะแนน 8/10 แต่ต้องขอไปลองกับ Tempo เพิ่มอีกว่าฟิวส์จะเป็นอย่างไร
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับความรู้สึกของการใช้งานครั้งแรกของน้องเอ็ม ส่วนตัวผม ผมชอบมันอยู่แล้วครับ เพราะผมใช้มาตั้งแต่รุ่นแรเลย ถือว่าเขาทำการบ้านมาดีมากๆ สำหรับรองเท้าแบรนด์นี้