สาเหตุที่ผมชอบเจ้า Saucony Kinvara 12 เพราะความเป็นรองเท้าอเนกประสงค์ครับ น้ำหนักเบาประมาณ 223 กรัม ในไซส์ 10US เบากว่า Kinvara 11 ที่มีน้ำหนัก 248 กรัม เบาลงกว่า 20 กรัมเลย ผมใส่มาตั้งแต่รุ่น 10 และ 11  ทำให้ผมไม่พลาดที่จะสอยเจ้าKinvara 12 แบบไม่ลังเล โดยรุ่นนี้ได้มีการปรับโฉมใหม่และปรับให้มีน้ำหนักเบาขึ้น นุ่มกว่าเดิม ผมมักจะใช้เจ้า Kinvara ในวันที่ผมต้องการ Recovery หรือวิ่งเบาๆ ลงคอร์ด หรือแม้แต่วันวิ่งยาว 15-21k ก็ยังทำได้ดี  เจ้า Kinvara 12 มันดูเรียบง่าย แต่ทรงพลัง  ไม่หวือหวา ไม่โดดเด่นใดๆ แต่ถ้าวิ่งไปสักพักได้รอบและจังหวะเมื่อไร ก็มีไหลยาวๆๆ มาดูรายละเอียดคราวๆกันครับกับเจ้ารองเท้าคู่นี้

น้ำหนัก : ชาย 213 กรัม (9US) / หญิง 184 กรัม (8US)
Stack Height : ส้นเท้า 28.5 หน้าเท้า 24.5
Drop : 4mm
หน้าเท้า : มีรุ่นหน้า Wide
ราคา : 3,999 บาท

Upper

เจ้า Kinvara 12 จะใช้เป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า FORMFIT ซึ่งเทคโนโลยี FORMFIT หมายถึง 4 องค์ประกอบหลักดังนี้คือ

1.หน้าผ้าแบบ Engineered Mesh
2.แผ่นรองรองเท้า (Insole)
3.แผ่นรองปิดด้านบนที่ทำมาจากวัสดุ e-TPU
4.การยกขอบโฟมของพื้นชั้นกลาง (Midsole Walls)

ผ้าตาข่าย Engineered Mesh ระบายความร้อนได้ดี ยืดหยุ่นและให้ตัวได้ วิ่งยาวๆ ไกลๆ ลิ้นรองเท้า บางนุ่มและสัมผัสที่เป็นมิตรกับเท้า เชือกรองเท้าแบบบางรุ่นี้ยาวกว่า Kinvara 11  ที่ผมใช้ บริเวณส้นรองเท้า มีความแข็งขึ้นเสริมป้องกันช่วงบริเวณส้นเท้ามาพร้อมกับเป็นพลาสติกสำหรับใช้เวลาสวมใส่รองเท้าให้สะดวกและง่ายขึ้น แถมด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Swallow tail เป็นหางแยกออกมา 2 แฉกจะทำให้การลงส้นเท้าสมูธมากขึ้น นุ่มนวลมาขึ้นนั่นเอง

Midsole

PWRRUN ถือว่าเป็นพื้นโฟมที่ถูกใช้เป็นพื้นฐานของพื้นรองเท้ารุ่นใหม่ของแบรนด์ Saucony ทำให้ช่วยตอบสนองรอบขาได้เป็นอย่างดี มีการส่งแรงคืนพร้อมยังช่วยลดแรงกระแทกได้ดี

Outsole

ถูกเลือกใช้เป็นตัว XT-900 มันก็คือวัสดุพื้นรองเท้าชั้นนอกทำจากยางคาร์บอนระดับพรีเมียมที่ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมและมีคุณสมบัติให้ความทนทานสูง ซึ่งถูกวางไว้ในตำแหน่งที่มีโอกาสจะเสียดสีและสึกหรอได้ง่ายซึ่งก็คือบริเวณหน้าเท้าและส้นเท้า ที่ไม่ได้ใส่ไว้ทั้งพื้นเพราะต้องการให้มี น้ำหนักเบาลง ยึดเกาะพื้นเปียกได้ดี

 

By somchai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *